คําเตือนเกี่ยวกับอาการปวดไต – สัญญาณของโรคอันตรายมากมาย

คําเตือนเกี่ยวกับอาการปวดไต - สัญญาณของโรคอันตรายมากมาย

อาการปวดไต หรือที่มักเรียกกันว่า ปวดบริเวณสีข้าง เป็นอาการที่พบได้บ่อยในโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการปวดหลังหรือปวดท้องได้ง่าย ดังนั้น การวินิจฉัยสาเหตุที่แน่ชัดและรักษาได้อย่างทันท่วงทีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย 

1. ทำความรู้จักกับอาการปวดไต

อาการปวดไต ซึ่งอาจดูเหมือนอาการปวดหลังหรือปวดท้องทั่วๆ ไป แต่กลับแฝงไปด้วยอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งแตกต่างจากโรคอื่นๆ ตรงที่อาการปวดไตมักจะปวดตื้อๆ บริเวณด้านข้างลำตัวทั้งสองข้างหรือตรงกลางหลัง บริเวณใต้ชายโครง ด้านขวาหรือซ้ายของกระดูกสันหลัง และอาการปวดนี้อาจลามไปยังบริเวณขาหนีบหรือท้องได้

Đau thận ở vị trí nào? Nguyên nhân và cách giảm đau hiệu quả

เนื่องจากตำแหน่งของอาการปวดที่ “ลวงตา” เช่นนี้ ทำให้อาการปวดไตมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการปวดหลังหรือปวดท้อง ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยและเกิดขึ้นได้ง่าย จึงทำให้หลายคนไม่ใส่ใจ ละเลยอาการปวด และไม่ไปพบแพทย์ จนนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์

“อาการปวดไตเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงเกี่ยวกับไตหลายชนิด เช่น นิ่วในไต กรวยไตอักเสบ ท่อไตอุดตัน เป็นต้น หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โรคเหล่านี้อาจลุกลามจนไตวาย และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้”

2. อาการปวดไตโดยทั่วไป

การสังเกตอาการปวดไตได้อย่างแม่นยำ มีบทบาทสำคัญในการตรวจพบและรักษาได้อย่างทันท่วงที ช่วยหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย ต่อไปนี้เป็นอาการปวดไตที่พบบ่อย:

อาการปวด: ปวดตื้อๆ ปวดนาน เป็นๆ หายๆ หรือปวดแปลบ ปวดรุนแรงเป็นพักๆ

6 giai đoạn của bệnh thận mãn tính

มีไข้: ไข้เป็นอาการที่พบได้บ่อยในกรณีที่ไตติดเชื้อ เช่น กรวยไตอักเสบ

คลื่นไส้ อาเจียน: อาการคลื่นไส้ อาเจียน อาจเกิดขึ้นได้จากอาการปวดอย่างรุนแรง หรือเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย

ปัสสาวะผิดปกติ: ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขัด ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะขุ่น มีหนอง เป็นต้น ล้วนเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับอาการปวดไตได้

สีปัสสาวะเปลี่ยนไป: ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้น หรือมีเลือดปน เป็นสัญญาณเตือนของโรคไต ที่ต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที

Mùi nước tiểu có thể là dấu hiệu cảnh báo bệnh suy thận

3. แยกแยะระหว่างอาการปวดไตและปวดหลัง

อาการปวดไตและปวดหลังเป็นอาการที่พบได้บ่อย และมักทำให้หลายคนสับสน เนื่องจากมีอาการบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตาม การแยกแยะโรคทั้งสองนี้ให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อที่จะได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงที ต่อไปนี้คือข้อแตกต่างบางประการที่ช่วยให้คุณแยกแยะอาการปวดไตและปวดหลังได้:

ตำแหน่งปวด:

  • ปวดหลัง: มักเกิดขึ้นที่บริเวณครึ่งล่างของหลัง อาจลามไปถึงก้น สะโพก หรือขา
  • ปวดไต: มักเกิดขึ้นที่บริเวณครึ่งบนของหลัง ด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้าน บริเวณใต้ซี่โครง อาการปวดอาจลามลงไปที่ขา ขาหนีบ ท้องน้อย หรือสะโพก

5 dấu hiệu sỏi thận ở nữ giới khiến ai cũng “há hốc mồm”

ลักษณะปวด:

  • ปวดหลัง: มักปวดแบบตึงๆ หรือปวดแปลบ อาจบรรเทาลงหรือหายไปเมื่อคุณเปลี่ยนท่าทาง เคลื่อนไหวร่างกายเบาๆ อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อคุณก้มลง ไอ จาม หรือยกของหนัก
  • ปวดไต: มักปวดแบบตื้อๆ หรือปวดหน่วงๆ ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อคุณเปลี่ยนท่าทาง อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และไม่ทุเลาลงเมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย

อาการร่วมอื่นๆ:

  • ปวดหลัง: อาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อตึง หรือรู้สึกชาบริเวณหลังร่วมด้วย
  • ปวดไต: อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขัด ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะเป็นเลือด มีไข้ หนาวสั่นร่วมด้วย

4. สาเหตุของอาการปวดไต

อาการปวดหน่วงๆ ตื้อๆ บริเวณเอว ใต้ชายโครง อาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการปวดไต ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้

4.1 นิ่วในไต

นิ่วในไต คือ ก้อนแข็งที่เกิดจากการตกตะกอนของแร่ธาตุในปัสสาวะ หากก้อนนิ่วมีขนาดเล็ก ก็สามารถถูกขับออกจากร่างกายได้เองตามธรรมชาติทางท่อปัสสาวะ แต่หากก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่ขึ้น อาจไปอุดตันในท่อไต ทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ

4.2 การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (UTI) คือ ภาวะที่เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่และก่อการติดเชื้อในส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งรวมถึง ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะ เชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli (E. coli), หนองในเทียม และ Proteus mirabilis เป็น “ต้นเหตุ” ที่พบได้บ่อยที่สุดที่ก่อให้เกิด UTI

Nguyên nhân viêm đường tiết niệu có thể bạn chưa biết

 

4.3 การติดเชื้อในไต

การติดเชื้อในไต หรือที่เรียกว่า ภาวะไตอักเสบ เป็นภาวะที่เชื้อแบคทีเรียจากกระเพาะปัสสาวะลุกลามขึ้นไปติดเชื้อที่ไต ทำให้เกิดการอักเสบ ภาวะไตอักเสบอาจเกิดขึ้นที่ไตข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างก็ได้ ส่งผลใหเกิดอาการปวดบริเวณหลัง เอว ขาหนีบ และมีไข้ร่วมด้วย

4.4 ไตบวมน้ำ

ไตบวมน้ำ คือ ภาวะที่ปัสสาวะคั่งอยู่ในไต เนื่องจากเกิดการอุดตันของท่อปัสสาวะ ซึ่งการอุดตันนี้มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย โดยสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ นิ่วในไต ก้อนนิ่วที่เคลื่อนตัวอยู่ในท่อไตอาจไปติดค้างอยู่ ขัดขวางการไหลเวียนของปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะเกิดการคั่งอยู่ในไต
ไตบวมน้ำอาจเกิดขึ้นที่ไตข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างก็ได้ ส่งผลใหเกิดอาการปวดบริเวณหลัง เอว ท้องน้อย และขาหนีบ

Thận ứ nước là gì? Triệu chứng nguyên nhân và cách điều trị

4.5 โรคไตเป็นถุงน้ำ

โรคไตเป็นถุงน้ำ เป็นโรคทางพันธุกรรม ที่มีลักษณะเฉพาะคือ มีถุงน้ำเกิดขึ้นจำนวนมากภายในไต เมื่อถุงน้ำเหล่านี้ขยายใหญ่ขึ้น ไตก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ไตถูกยืดขยายและเกิดความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อการทำงานปกติของไต 

Thận đa nang: nguyên nhân, triệu chứng và điều trị

4.6 เนื้องอกธรรมดาหรือมะเร็ง

การปรากฏของเนื้องอก ไม่ว่าจะเป็นเนื้องอกธรรมดาหรือมะเร็งในไต ก็สามารถเป็นสาเหตุของอาการปวดเรื้อรังได้ อาการปวดเนื่องจากเนื้องอกในไตมักจะเกิดขึ้นบริเวณสีข้าง หลัง หรือชายโครง และอาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือเป็นพักๆ

U thận lành tính - Báo VnExpress Sức khỏe

4.7 เส้นเลือดดำในไตอุดตัน

ภาวะเส้นเลือดดำในไตอุดตัน หรือที่เรียกว่าลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดดำในไต คือภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นในเส้นเลือดดำในไต ขัดขวางการไหลเวียนของเลือดจากไตกลับสู่หัวใจ ภาวะนี้อาจทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง หรือปวดเป็นพักๆ บริเวณชายโครงหรือไตข้างใดข้างหนึ่ง อาการปวดยังอาจลามไปยังบริเวณโดยรอบไต เช่น บริเวณระหว่างซี่โครงหรือกระดูกสันหลัง

4.8 การบาดเจ็บที่ไต

การบาดเจ็บที่ไตอาจเกิดขึ้นได้จากการกระแทกอย่างแรงบริเวณหน้าท้องหรือหลังส่วนล่าง มักพบในกีฬาต่อสู้ เช่น มวย ฟุตบอล ขี่ม้า เมื่อไตได้รับบาดเจ็บ คุณอาจรู้สึกปวดหรือไม่สบายบริเวณท้องทั้งสองข้างหรือหลังส่วนล่าง ระดับความปวดขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบาดเจ็บ

5. การวินิจฉัยและรักษาอาการปวดไต

เพื่อระบุสาเหตุของอาการปวดไตอย่างแม่นยำและให้การรักษาที่เหมาะสม แพทย์จำเป็นต้องทำการตรวจวินิจฉัยที่จำเป็น:

5.1 วิธีการวินิจฉัยอาการปวดไต

เพื่อระบุสาเหตุของอาการปวดไตอย่างแม่นยำและให้การรักษาที่เหมาะสม แพทย์จะดำเนินการตรวจวินิจฉัยที่จำเป็นดังต่อไปนี้:

Vì sao phải kiểm tra nước tiểu khi mắc bệnh thận

การตรวจเลือด:

  • ประเมินการทำงานของไต: ตรวจวัดระดับ creatinine, urea, electrolytes (โพแทสเซียม, โซเดียม, คลอไรด์, ไบคาร์บอเนต…) ในเลือด เมื่อค่าเหล่านี้สูงกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณของภาวะไตวาย
  • ตรวจหาการติดเชื้อ: ตรวจวัดระดับเม็ดเลือดขาว, protein C-reactive (CRP) ในเลือด เมื่อระดับสูง อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในไตหรือทางเดินปัสสาวะ
  • ตรวจสอบโรคอื่นๆ: ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอล ปัจจัยการแข็งตัวของเลือด… เพื่อประเมินความเสี่ยงของโรคหัวใจ เบาหวาน ภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ ที่อาจส่งผลต่อไต

การตรวจปัสสาวะ:

  • วิเคราะห์องค์ประกอบ: ตรวจหาโปรตีน เซลล์เม็ดเลือด แบคทีเรีย เศษนิ่วในไตในปัสสาวะ
  • ประเมินการทำงานของไต: ตรวจอัตราส่วนอัลบูมิน/creatinine (ACR) ในปัสสาวะ อัตราส่วนที่สูงกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณของความเสียหายของไตจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคอื่นๆ

การตรวจวินิจฉัยด้วยภาพ:

  • อัลตราซาวด์ช่องท้อง: ช่วยให้เห็นภาพไตโดยตรง ตรวจหานิ่วในไต ถุงน้ำ เนื้องอก หรือความผิดปกติอื่นๆ
  • เอ็กซเรย์ช่องท้อง:ช่วยตรวจหานิ่วในไตหรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ในทางเดินปัสสาวะ
  • การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) หรือการถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI): ให้ภาพที่ละเอียดมากขึ้นของไตและอวัยวะข้างเคียง ช่วยตรวจหานิ่วในไต เนื้องอก ความเสียหาย หรือความพิการแต่กำเนิด

Chụp Ct Scan Bụng Cho Thấy Gan Thận Và Cột Sống Hình ảnh Sẵn có - Tải xuống  Hình ảnh Ngay bây giờ - Chụp cắt lớp - Quét y tế, Chụp cộng hưởng từ, Bụng  - Bộ phận cơ thể - iStock

5.2 วิธีการรักษาอาการปวดไต

เป้าหมายหลักของการรักษาอาการปวดไตคือการบรรเทาอาการปวด และกำจัดสาเหตุของโรค แพทย์จะพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยดูจากความรุนแรงและสาเหตุของอาการปวด

การรักษาด้วยยา:

ใช้ในกรณีที่อาการไม่รุนแรง และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของผู้ป่วยมากนัก

รวมถึงการสั่งจ่ายยา และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย

การรักษาด้วยการผ่าตัด:

ใช้ในกรณีที่อาการปวดไต รุนแรง จนทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างและการทำงานของไตอย่างถาวร
รวม:

  • ผ่าตัด: ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะ
  • ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า: ทำลายเชื้อโรค
  • ปลูกถ่ายไต: สำหรับกรณีที่ต้องเปลี่ยนไตใหม่
  • อาการปวดไตเป็นอาการที่พบบ่อย ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ มากมาย ตั้งแต่นิ่วในไต การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ไปจนถึงโรคไตที่เป็นอันตราย บทความนี้ให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับอาการปวดไต รวมถึงสาเหตุ อาการ การวินิจฉัย และการรักษา
0617862236