ไตวายเป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้
ผู้ป่วยไตวายควรกินอะไรหรือควรหลีกเลี่ยงอะไรเป็นคำถามที่ทั้งผู้ป่วยและญาติควรศึกษา เนื่องจากโภชนาการมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสุขภาพ ช่วยในการรักษา และเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วสำหรับผู้ป่วยไตวาย
ดังนั้น นอกเหนือจากการปฏิบัติตามแผนการรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผู้ป่วยไตวายจำเป็นต้องสร้างแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้โรคดำเนินไปในทางที่แย่ลง
1. ผู้ป่วยไตวายไม่ควรทานอะไร?
ต่อไปนี้คืออาหารบางชนิดที่ผู้ป่วยไตวายไม่ควรรับประทานตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
อาหารที่มีโซเดียมและน้ำตาลสูง เช่น อาหารกระป๋อง ของดอง เนื้อรมควัน ขนมปังขาว มันฝรั่ง … ควรจำกัดการปรุงรสด้วยเครื่องปรุงเหล่านี้ในอาหารประจำวัน
ไม่ควรกินขนมอบกรอบ ขนมหวาน เครื่องดื่มอัดลม น้ำอัดลม
อาหารที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง เช่น กุ้งแห้ง เนื้อวัว ลูกเกด แก้วมังกร กล้วย กีวี และผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักหวาน ผักบุ้ง
อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู อกไก่ อาจทำให้ไตทำงานหนักเกินไป สัตว์ปีกมีกรดยูริกและโปรตีนสูง ดังนั้นผู้ป่วยไตวายควรจำกัดการรับประทานในอาหารประจำวัน
อาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันมาก เครื่องในสัตว์ จะส่งผลเสียต่อไตและทำให้เกิดโรคอื่นๆ ได้
ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สุรา เบียร์ บุหรี่ กาแฟ
ดื่มน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ (ขึ้นอยู่กับอาการของโรค) เพื่อจำกัดการทำงานของไตในการกรองเลือด โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการบวมน้ำ
2. ผู้ป่วยไตวายควรทานอะไร
ไตเป็นอวัยวะสำคัญในการกรองเลือดและกำจัดสารพิษที่สะสมในเลือด เมื่อผู้ป่วยเป็นโรคไตวาย การทำงานของไตจะอ่อนแอลง
ทำให้สารพิษสะสมในเลือดมากขึ้น เกิดความไม่สมดุลของความเข้มข้นของสารบางชนิดในเลือด เช่น กรดยูริก โซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เพิ่มขึ้น
ดังนั้น โภชนาการที่เหมาะสมจะช่วยให้อาการของโรคดีขึ้น ลดภาระการกรองเลือดของไต ชะลอการลุกลามของโรค และป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ ควรรับประทานอาหารที่เหมาะสมควบคู่กับแผนการรักษาหรือการใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด
อาหารจำพวกแป้งที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น มันเทศ ข้าวขาว ข้าวกล้อง
รับประทานผักหลากหลายชนิด เช่น บรอกโคลี พริกหวาน หัวไชเท้า บีทรูท ผักกาดหัว ผักคะน้า กะหล่ำปลี เห็ดหอม หัวหอม กระเทียม
รับประทานผลไม้ เช่น องุ่น บลูเบอร์รี่ แอปเปิ้ล สับปะรด สตรอเบอร์รี่ อะโวคาโด
รับประทานถั่ว เช่น มะคาเดเมีย บัควีท Bulgur และธัญพืช ข้าวโอ๊ต
เลือกใช้น้ำมันจากพืช เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันงา
ดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้ ชาเขียว น้ำนมข้าวโพด ในปริมาณที่พอเหมาะ
3. ผู้ป่วยไตวายควรทำอย่างไรเพื่อช่วยในการรักษา
นอกจากการสร้างแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมแล้ว เพื่อช่วยในการรักษา ผู้ป่วยไตวายยังต้องใส่ใจสิ่งต่อไปนี้:
● ตรวจวัดความดันโลหิตทุกวันเป็นวิธีสำคัญในการปกป้องสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด และป้องกันปัญหาที่เกี่ยวข้องกับไตวาย
● ออกกำลังกายสม่ำเสมอตามสภาพร่างกายเพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและความต้านทานโรคให้กับร่างกาย
● รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมสามารถช่วยควบคุมภาวะไตวายและความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
● ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีเพื่อจำกัดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย
● หากแพทย์สั่งจ่ายยาหรือวิธีการรักษา ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ห้ามเปลี่ยนแปลงปริมาณยาหรือหยุดใช้ยาเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
● หากคุณใช้สมุนไพร อาหารเสริม หรือวิธีการใดๆ ที่ไม่ได้สั่งโดยแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน ยาและสมุนไพรบางชนิดอาจเป็นอันตรายต่อการทำงานของไต ทำให้โรครุนแรงขึ้นได้
● ทำการตรวจและตรวจสอบตามคำแนะนำของแพทย์เป็นประจำเพื่อติดตามภาวะไตวาย
● เมื่อร่างกายมีอาการผิดปกติใดๆ ผู้ป่วยต้องแจ้งให้แพทย์ทราบโดยทันทีเพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที
● ห้ามใช้วิธีการรักษาใดๆ ที่ไม่เป็นทางการ ขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หรือตามคำบอกเล่าเด็ดขาด บางครั้งอาจทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นหรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
● ในกรณีที่จำเป็นต้องรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อติดตามและรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้อาการของโรคแย่ลง
4, Nepro- โภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ โภชนาการ เพื่อสุขภาพ
ช่วยให้สารอาหารและฟื้นฟูสุขภาพ: Nepro ให้สารอาหารครบถ้วน (1,000 กิโลแคลอรี/แก้ว) โดยมีอัตราส่วนไขมันและคาร์โบไฮเดรตที่สมดุล ส่วนผสมโปรตีนจาก whey และถั่วเหลือง รวมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น 17 ชนิด ช่วยให้ได้รับสารอาหารเพียงพอเพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างรวดเร็ว Nepro ใช้ระบบแป้งที่ดูดซับช้าเพื่อรักษาระดับน้ำตาลให้คงที่ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือดสำหรับผู้ป่วย…
นมน้ำเหลือง Nepro ได้ออกแบบให้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับผู้ป่วยโรคไต นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์นี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่าตัดอีกด้วย ผู้ที่ไม่รู้วิธีเตรียมเมนูอาหารที่มีสารอาหารและโภชนาการที่เหมาะสมหลังการผ่าตัด เหมาะสำหรับใช้ทุกวัน นมผง Nepro ก็สามารถใช้กับผู้อื่นได้เช่นกัน สามารถใช้เป็นอาหารทดแทนได้ทุกวัน รองรับการทำงานของไต